กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

: ประกันภัยรถยนต์ เบี้ยถูกผ่อน 0% นาน 6 งวด หรือจะเลือก จ่ายสด

  • เริ่มกระทู้โดย เริ่มกระทู้โดย 88insure
  • วันที่เริ่มกระทู้ วันที่เริ่มกระทู้

เอธานอล อัศวินม้าขาวของวิกฤตราคาน้ำมันเบนซิน

เชื่อหรือไม่ว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามผู้ที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ ก็คือผู้บริโภคน้ำมันเบนซินอย่างพวกเราทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ใช้น้ำมันดีเซลที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นตามมาติด ๆ ในเมื่อเราไม่สามารถเลิกใช้รถเพื่อการเดินทางได้ ดังนั้นการใช้พลังงานทดแทนดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ ปัจจุบันนี้

เอธานอล คืออะไร
เอธานอล เป็นแอลกอฮอล์ที่ได้จากการแปรรูปพืชประเภท แป้ง และน้ำตาล สามารถนำมาใช้ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ หากจะนำมาใช้เพียว ๆ เครื่องยนต์ก็ต้องออกแบบมาเพื่อใช้กับเชื้อเพลิงเอธานอลโดยเฉพาะ ซึ่งใช้กับเอธานอลบริสุทธิ์ 95 % (มีส่วนผสมของน้ำอยู่ 5 %) คงไม่คุ้มค่านักกับการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้สามารถใช้เชื้อเพลิงชนิดนี้ (ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงจนสามารถนำไปดาวน์รถใหม่ได้) สำหรับเอธานอลบริสุทธิ์ 99.5 % สามารถนำไปผสมกับน้ำมันเบนซิน หรือ แกสโซลีน กลายเป็น แกสโซฮอล์ รูปแบบใหม่ของพลังงานทดแทนที่กำลังถูกกล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวาง

สำหรับประเทศไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกลว่าในอนาคตอันใกล้นี้ พสกนิกรของพระองค์คงต้องประสบปัญญาราคาน้ำมันสูงเป็นแน่ แต่พืชพรรณทางการเกษตรกลับมีราคาตกต่ำลง โดยเฉพาะอ้อยที่นิยมเพาะปลูกมากจนมีปริมาณล้นความต้องการของประเทศ จึงมีพระกระแสรับสั่งให้โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรดา ดำเนินการศึกษาค้นคว้าและทดลองใช้เชื้อเพลิงเอธานอลกับรถยนต์ โดยมีภาคเอกชนหลายหน่วยงานร่วมพัฒนาโครงการ จนประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ

อย่างไรก็ดี ภาครัฐควรเร่งการขยายสาขาให้บริการแกสโซฮอล์ให้มากยิ่งขึ้น เพราะนั่นหมายถึงการช่วยชาติลดการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ลดการเสียดุลการค้า ที่สำคัญที่สุดผลผลิตทางการเกษตรที่นำมาแปรรูปเป็นเอธานอลได้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เกษตรกรผู้ผลิตก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ชีวิตการเป็นอยู่ดีขึ้น เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.ethanol-thailand.net
 


สี่แยกอารมณ์เสีย

เคยสังเกตุหรือไม่ว่าเมือท่านขับรถไปหยุดตามสี่แยกไฟแดง จะต้องมีเพื่อนร่วมทางของท่านคนใดคนหนึ่งถูกเพื่อร่วมทางของท่านอีกคนหนึ่งต่อว่าด้วยเสียงแตร บ้างก็แค่เตือนเบา ๆ บ้างก็ต่อว่าแบบเอาเป็นเอาตาย(คงอารมณ์เสียมาจากสี่แยกที่แล้วแน่ๆ เลย) บังเอิญว่าคันที่บีบแตรเสียงดังน่าปวดหัวดันมาอยู่ข้างหลังเราเสียด้วย เอ
 
บทเรียนราคาแพงจากแบตเตอร์รี่

นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนความประมาทเลินเล่อและเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ขับรถทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ขับเป็นอย่างเดียวและไม่คิดที่จะหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ด้วยตนเอง ก็ใครจะไปคิดว่าแบตเตอร์รี่ลูกเล็ก ๆ ลูกเดียวจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้มากถึงเพียงนี้

เรื่องมีอยู่ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ก็เลยขับรถไปเปลี่ยนที่ร้านโดยเลือกแบตเตอร์รี่ชนิดเติมน้ำกรดแล้วใช้งานได้ทันที ไม่นานช่างก็บอกว่าเรียบร้อยแล้วจึงชำระเงินแล้วขับรถไปธุระต่างจังหวัด
ระหว่างทางเมื่อรถตกหลุมหรือผ่านทางขลุขละมาก ๆ จะได้ยินเสียงดังมาจากเครื่องยนต์แต่ไม่ได้เอะใจเพราะความไม่รู้จึงคิดไปเองว่า
 

ไฟล์แนบ

  • tip09.gif
    tip09.gif
    25.4 KB · อ่าน: 44

รถยนต์สีอะไรปลอดภัยบนถนน

จากการทดสอบของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สรุปได้ว่า รถยนต์สีน้ำเงินหรือฟ้า (หรือสีบลู) กับสีเหลือง จะเป็นสีที่ให้ความปลอดภัยสูงที่สุดในยามที่แล่นฉิวปลิวลมไปบนถนนหลวง

รถยนต์สีน้ำเงินหรือสีฟ้านั้นจะให้ความปลอดภัยสูงสุดในเวลากลางวันและในยามที่มีหมอกลง เพราะผู้ร่วมใช้ถนนอยู่จะมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด

รถยนต์สีเหลืองจะมีความปลอดภัยสูงสุดในเวลากลางคืน ส่วนสีที่ไม่น่าใช้ที่สุดคือ สีเทา แต่ผลการศึกษาของเมอร์เซเดสเบนซ์ บอกว่า สีขาวเป็นสีที่เหมาะสมที่สุด เพราะสามารถมองเห็นได้เด่นชัดจากทุกทิศทาง จะมีจุดอ่อน ก็เพียงเมื่อยามที่เกิดมีหิมะตกหนักปกคลุมถนน และวิ่งบนพื้นที่ทรายสีขาว รองลงไปจากสีขาวเป็นสีเหลืองสดใส และอันดับสามเป็นสีส้มสด เพราะผู้ร่วมใช้ถนนมองเห็นชัดมาก ส่วนสีที่ไม่น่าใช้ เมอร์เซเดสเบนซ์ บอกว่า สีเขียวเข้ม หรือดาร์คกรีน
 

ไฟล์แนบ

  • tip05.gif
    tip05.gif
    10.7 KB · อ่าน: 45

การดูแลรักษาชิ้นส่วนภายใน

ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดถู และหากเป็นไปได้ควรใช้พวกผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาพลาสติก สำหรับส่วนที่เป็นช่องเป่าลมแอร์ หากมีฝุ่นละอองเกาะตามซอกเล็ก สามารถกำจัดเจ้าฝุ่นละอองเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น โดยใช้พวกแปรงไฟฟ้าสถิตที่สามารถดูดฝุ่นละอองได้

ห้ามใช้น้ำกับบริเวณเบาะที่นั่ง หรือส่วนที่เป็นผ้าบุหลังคาจนเปียกชุ่ม ควรใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ตลอดจนห้ามใช้สารที่มีคุณสมบัติเป็นตัวละลายกับชิ้นส่วนต่างๆ เช่น พวกไนโตรทินเนอร์ แอลกอฮอล์ น้ำมันเบนซิน หรือน้ำมันดีเซล เป็นต้น

อุปกรณ์วัสดุที่เป็นยาง นอกจากใช้น้ำในการทำความสะอาดแล้ว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายาง และพวกสเปร์ซิลิโคนเท่านั้น

แผงลายไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้จริงหรือทำจากเรซิ่นก็ตาม ควรเช็ดถูทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆเท่านั้น

ผ้ายางปูพื้นหรือพรมสกปรกมาก สามารถทำความสะอาดได้จากการใช้น้ำยาทำความสะอาด ควรนำผ้ายางปูพื้นออกมาสลัดฝุ่นทิ้ง และดูดฝุ่นที่พรมปูพื้นเป็นประจำ ซึ่งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของคอยล์เย็น ไม่ให้อุดตันเร็วนัก ยืดระยะเวลาในการล้างตู้แอร์ให้ยาวนานออกไป
 
12 วิธีการประหยัดน้ำมันแบบง่ายๆ

ขั้นตอนการประหยัด

1.เติมน้ำมันหลัง 4 ทุ่ม หรือก่อน 9 โมงเช้าเสมอ
2.เติมน้ำมันแค่หัวจ่ายตัดพอแล้ว
3.อุ่นเครื่อง 1 นาทีในหน้าร้อนและ 3 นาทีในหน้าหนาว
4.ค่อยๆออกตัวเมื่อรถจอดนิ่ง 1-2 พันรอบ
5.ควรใช้เกียร์สูงเมื่อรถวิ่งได้ 2500 รอบขึ้นไป
6.เครื่อง 2.0 ลิตรขึ้นไปความเร็วคงที่ที่ทำให้ประหยัด110 กม./ชม.
7.เครื่อง 1.6 ลิตรขึ้นไปความเร็วคงที่ที่ทำให้ประหยัด 90 กม./ชม.
8.พักรถสัก 15 นาทีเมื่อขับเกิน 4 ชม.เพื่อให้ลดความร้อน
9.เกียร์ถอยกินน้ำมันมากสุด ควรค่อยๆถอยไม่ต้องรีบ
10.ก่อนถึงปลายทางสัก 500 เมตรให้ปิด COM แอร์ลดภาระเครื่อง
11.เช็คลมยางให้สม่ำเสมอทุกๆ 2 อาทิตย์และเมื่อจะออกเดินทางไปต่างจังหวัด
12.พยายามอย่าใส่ของไว้ในรถเยอะ
 

ผลที่จะได้รับ
อุณหภูมิที่เย็นน้ำมันหดตัวได้ปริมาตรมากขึ้น 2%
ถ้าเติมจนเต็มปรี่ ร้อนๆน้ำมันจะขยายตัวระเหยทิ้งที่รูระบาย
เครื่องจะได้ไม่ใช้กำลังฉุดมากและการหล่อลื่นจะสมบูรณ์ขึ้น
ได้ความนิ่มนวล ประหยัด และลดการสึกหรอของเครื่องยนต์
การลากเกียร์จะทำให้ชดเกียร์ทำงานจนอายุการใช้งานสั้น
รักษาสเถียรภาพความเร็วทำให้กินน้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง
รักษาสเถียรภาพความเร็วทำให้กินน้ำมันน้อยที่สุดขณะรถวิ่ง
ให้น้ำมันในระบบคลายความร้อนกลับมามีคุณสมบัติที่ดีอีกครั้ง
เกียร์ถอยใช้อัตราทดและแรงฉุดมากกว่าทุกเกียร์
เป่าลมไล่ความชื้นในตู้แอร์และไล่เชื้อราที่อยู่ในนั้นด้วย
ลมยางอ่อนวิ่งได้ช้า ขอบยางสึกมากอายุการใช้งานสั้น
เพิ่มน้ำหนักรถทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้น 20 % ตามระยะทาง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th
 
ตรวจเช็ครถก่อนเดินทางไกล

กรณีที่คุณต้องการเดินทางไกล สิ่งแรกที่ต้องทำคือตรวจเช็คสภาพรถยนต์ด้วยตัวคุณเอง เพื่อช่วยให้เกิดมั่นใจในการขับขี่ หรือหากพบข้อบกพร่องก็สามารถแก้ไขก่อนเดินทาง สำหรับวิธีการตรวจเช็คเบื้องต้นสามารถทำได้ดังนี้

ตรวจรถภายนอก

- ยาง ตรวจความดันลมยาง ดอกยาง และรอยฉีกขาด
- ตรวจดูว่าขันแน่นดี แต่ก็ไม่แน่นจนเกินไปจนคลายออก ไม่ได้ด้วยตัวเอง
- รอยรั่วซึม ตรวจดูว่ามีร่องรอยน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค หรือ น้ำรั่วซึมจากใต้ท้องรถ
- ยางปัดน้ำฝน ทดลองปัดดู
- ไฟส่องสว่าง ตรวจดูไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยวหรืออื่นๆรวมทั้งระดับไฟหน้าด้วยว่าเป็นปกติทั้งหมด
ตรวจภายในรถ
- ยางอะไหล่และแม่แรง ตรวจเช็คลมยาง และให้แน่ใจว่าแม่แรงและด้ามขันใช้งานได้ตามปกติ
- เข็มขัดนิรภัย ตรวจเช็คว่าหัวเข็มขัดสามารถลอ็คได้เรียบร้อย
- แตร ให้แน่ใจว่าดังดี
- แผงควบคุมและอุปกรณ์ ตรวจดูให้แน่ใจว่าทำงานเป็นปกติ และที่ปัดน้ำฝน ปัดได้เรียบร้อยสม่ำเสมอ
- เบรก เช็คระยะฟรีขาเบรคอยู่ในค่ากำหนดหรือไม่
- ฟิวส์สำรองที่เตรียมไว้ต้องมีขนาดค่ากระแสใช้ได้ตามที่กำหนดที่แผงฟิวส์


ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้า

- ระดับน้ำหล่อเย็น ควรจะมีอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพักสำรอง
- หม้อน้ำและท่อยาง ควรดูว่าด้านหน้าหม้อน้ำหมดจดไม่มีเศษวัสดุ หรือใบไม้ติดอยู่ ดูท่อยางว่ามีรอยแยก
เปื่อย มีรอยฉีกขาดหรือหลวม
- สายพานขับต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตก เลอะน้ำมันหล่อลื่น และความตึงสายพานอยู่ในค่ากำหนด
- แบตเตอรี่และสายไฟ ตรวจดูและเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับที่กำหนดดูเปลือกแบตเตอรี่ว่ามีร่องรอยเสียหาย
หรือไม่ ดูขั้วต่อและสายไฟว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่
- ระดับน้ำมันเบรคและคลัชท์ ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรคและคลัทช์อยู่ในระดับที่ถูกต้อง
- ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจดูว่าท่อน้ำมันมีการรั่วหลุดหรือไม่


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th
 

เตรียมตัวอย่างไรก่อนซื้อรถ

ถามตัวเองก่อน
สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำในการเตรียมตัวซื้อรถนั่นก็คือการถามตัวเองก่อนว่าคุณมีความจำเป็นในการใช้รถมากน้อยแค่ไหน บ้านคุณอยู่ไกลทำงาน ต้องไปรับลูก หรือแค่เห็นว่ารถรุ่นนี้สวย

กำหนดเงินที่มีอยู่
ข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากทีเดียวหากคุณคิดจะซื้อรถสักคันเพราะเงินคือสิ่งที่เป็นตัวกำหนดว่าคุณควรจะซื้อรถแบบใด ยี่ห้อใด หากว่าคุณต้องซื้อแบบเงินผ่อนล่ะก็ขอแนะนำว่าคุณต้องดูความสามารถในการผ่อนแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าดอกเบี้ย ค่าประกันรถ ค่าซ่อมแซม ลองบวกลบคูณหารแล้วไม่ทำให้คุณเดือดร้อน

ยี่ห้อรถและราคาขายต่อ
มีรถบางยี่ห้อราคาแพงลิบตอนคุณซื้อ แต่พอคุณคิดจะเปลี่ยนยี่ห้อกลับราคาตกอย่างน่าใจหาย จริงๆแล้วเรื่องราคาขายต่อนั้นก็มีปัจจัยหลายข้อที่ทำให้ราคาตกไม่ได้ขึ้นอยู่ที่สภาพหรือสมรรถนะของรถเท่านั้นแต่เกี่ยวกับเรื่องของกระแสความนิยม ความดังของยี่ห้อ สัญชาติของยี่ห้อ จำนวนศูนย์บริการ ราคาอะไหล่ ความชินตาที่เห็นบนถนน ความจุกจิกในการใช้งาน รูปลักษณ์ จำนวนคนที่รอซื้อต่อ หรือความยากในการขายต่อ ความใหม่ของยี่ห้อรวม ถึงการล้มหายไปของยี่ห้อ ฯลฯ ล้วนมีผลต่อราคาขายต่อทั้งนั้น ดังนั้นเรื่องยี่ห้อรถและราคาขายต่อนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองว่าจะตัดสินใจอย่างไร

ควรดูราคาหลายๆแห่งก่อนซื้อ
เพราะว่าแต่ละบริษัทอาจจะมีโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำ อุปกรณ์เสริม เช่น ล้อแม็กซ์ แอร์ วิทยุ กันสนิม ซ่อมฟรี และฟรีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุณควรจะลองดูหลายๆแห่งอาจจะได้รถดีราคาไม่แพงมากก็ได้

เช็คราคาอะไหล่และศูนย์บริการ
รถบางยี่ห้อราคาอะไหล่แพงหูฉี่และหายาก มีความลำบากในการซ่อม รวมทั้งค่าซ่อมแพง หรือว่าบางยี่ห้อต้องใช้อะไหล่ของทางบริษัทเท่านั้น รวมถึงเรื่องของศูนย์บริการที่รถบางยี่ห้อมีไม่กี่แห่งอาจจะลำบากในการหาศูนย์บริการหากคุณอยู่ไกล

เช็คราคาการประกันรถยนต
ถ้าคุณจะซื้อรถเก่า ที่มีอายุการใช้งานเกินกว่า 10 ปี บริษัทประกันบางแห่ง จะไม่รับประกันภัยชั้น 1 ให้คุณถ้าเกิดกรณีอุบัติเหตุ จะทำให้คุณต้องเสียเงินมาก

หาข้อมูลเพิ่มเติม
สื่อในปัจจุบันนั้นมีมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรืออินเตอร์เน็ต คุณสามารถเช็คข้อมูลได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับรถที่คุณอยากรู้ แต่ต้องอย่าลืมว่าสื่อเหล่านี้ไม่ได้ถูกต้องไปเสีย100 % คุณอาจจะลองถามเพื่อนที่ใช้รถดูเค้าอาจมีคำแนะนำให้คุณแต่ความคิดส่วนตัวแต่ละคนแตกต่างกันไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th
 
เซ็นเซอร์อินฟาเรดดีอย่างไร?

ใน ปี 2553 ที่จะถึงนี้ผู้ผลิตยานยนต์จะนำระบบเซ็นเซอร์สำหรับเบรคฉุกเฉิน (EBA) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทคอนติเนนทอล ไปใช้ในยานยนต์สำหรับสังคมเมือง ระบบดังกล่าวได้ติดตั้งเป็นครั้งแรกแล้วในรถยนต์วอลโว่ รุ่น XC 60 ประโยชน์ของระบบนี้ก็คือขณะขับขี่ด้วยอัตราความเร็วปกติในเมือง ระบบเซ็นเซอร์อินฟาเรด (EBA) จะทำการส่งข้อมูลให้รถเบรคโดยอัตโนมัติ ในระยะที่เสี่ยงต่อการชนท้าย เพื่อป้องกันการชน

บริษัทคอนติเนนทอล ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก ประสบความสำเร็จในการแนะนำให้กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ในยุโรปนำ ระบบเซ็นเซอร์สำหรับเบรคฉุกเฉิน (EBA) ไปใช้ เพื่อป้องกันการชนท้าย ระบบเซ็นเซอร์นี้จะทำหน้าที่ตรวจดูสภาพถนนที่อยู่ข้างหน้ารถ พร้อมทำงานควบคู่กับระบบเบรค เมื่อเกิดความเสี่ยงจากการชนหัวถึงท้าย (nose-to-tail) ระบบนี้จะสั่งการไปที่เบรคโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถเบรคได้ทันท่วงที หรือมีการตอบสนองที่ช้าเกินไป โดยระบบนี้มีส่วนประกอบที่สำคัญสองส่วน คือ เซ็นเซอร์อินฟาเรด ที่สามารถตรวจสอบสภาพถนนที่อยู่ข้างหน้ารถ และจับสัญญาณอันตรายบนท้องถนน และระบบเบรคอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคอนติเนนทอลเป็นผู้จัดหาทั้งหมดนี้

ระบบดังกล่าวจะ ช่วยป้องกันการชน เมื่อความเร็วในการขับขี่อยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สภาพการขับขี่ในเมือง ผู้ขับขี่มักมีความเสี่ยงจากการชนท้ายบ่อยครั้ง เนื่องจากผู้ขับขี่ต้องเบรค และเร่งคันเร่งอยู่ตลอด จากสถิติของตำรวจพบว่า 75% ของอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นที่ความเร็วไม่เกิน30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาที่รถเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ หรือขณะ
 

ไฟล์แนบ

  • 552000016769501.jpg
    552000016769501.jpg
    34.2 KB · อ่าน: 48
 

ไฟล์แนบ

  • 552000016514403.jpg
    552000016514403.jpg
    22.4 KB · อ่าน: 69
  • 552000016514402.jpg
    552000016514402.jpg
    35.6 KB · อ่าน: 63
  • 552000016514401.jpg
    552000016514401.jpg
    16.3 KB · อ่าน: 66

เสียงนี้มาจากไหน?

โดยปกติเครื่องยนต์ที่มีสภาพสมบูรณ์จะให้เสียงที่มีจังหวะสม่ำเสมอ ความถี่ของเสียงจะเปลี่ยนไป โดยสัมพันธ์กับอัตราเร่งแต่เมื่อใดก็ตามรถยนต์ของคุณมีเสียงผิดปกติจากที่เคยเป็น แสดงว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ เสียงดังกล่าวอาจจะมาจากเครื่องยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ซึ่งหากคุณทราบถึงที่มาของเสียงตลอดทั้งรู้วิธีการแก้ไขย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

++เสียงกรี๊ดแหลม++

เสียงนี้จะได้ยินชัดเจนเมื่อเครื่องยนต์ติดใหม่ ๆ ความถี่ของเสียงจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามความเร็วรอบของเครื่องยนต์ สิ่งแรกที่ควรตรวจสอบคือสายพานขับเคลื่อนอุปกรณ์ภายนอก ซึ่งได้แก่สายพานปั๊มน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ สายพานอัลเทอร์เนเตอร์ สายพานคอมเพรสเซอร์ หากสายพานหย่อนเกินไปหรือเก่าจนเกิดความแข็งกระด้าง นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงกรี๊ดแหลม เนื่องจากเกิดการลื่นระหว่างพูลเลย์ และหน้าสัมผัสด้านข้างของสายพาน

วิธีแก้ไข ในกรณีสายพานหย่อน แต่ไม่เก่าจนแข็งกระด้างให้ปรับตั้งความตึงของสายพานให้เหมาะสม แต่หากสายพานมีสภาพเก่าหรือมีร่องรอยของการชำรุดควรเปลี่ยนใหม่และต้องใช้ขนาดเดิมเท่านั้น ส่วนสายพานภายในหรือสายพานไทม์มิ่ง เป็นสายพานภายนอกกำลังขับจากเพลงข้อเหวี่ยงไปยังเพลาราวลิ้นต้องเปลี่ยนตามระยะทางที่กำหนด

++เสียงรัวคล้ายโลหะกระทบกัน++

ในกรณีที่เครื่องยนต์มีเสียงรัวคล้ายโลหะชิ้นเล็ก ๆ หลายชิ้นกระทบกันในจังหวะที่สม่ำเสมอความถี่ของการรัวจะเปลี่ยนไปตามอัตราเร่งและต้นกำเนิดเสียงนี้มาจากบริเวณเหนือฝาสูบให้ตั้งสมมุติฐานว่าอาจมาจากระยะห่างระหว่างกระเดื่องวาล์วกับก้านวาล์วเกินค่าพิกัดที่กำหนด ถ้าเกิดขึ้นกับรถใหม่แสดงว่าการตั้งระยะห่างวาล์วคลาดเคลื่อน แต่หากเกิดขึ้นกับรถเก่าอาจเป็นเพราะเกิดการสึกหรอเนื่องจากการใช้งาน ระยะห่างวาล์วที่มากเกินกำหนดไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่จะทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง

วิธีแก้ไข ควรให้ช่างผู้ชำนาญเป็นผู้ปรับตั้งเพราะรถยนต์แต่ละรุ่นกำหนดระยะห่างวาล์วไม่เท่ากัน ตลอดทั้งมีวิธีการปรับตั้งที่ต่างกันปัจจุบันมีเครื่องยนต์หลายแบบจากหลายบริษัทที่ใช้ระบบปรับระยะห่างวาล์วอัตโนมัติ หากเครื่องยนต์แบบนี้มีเสียงที่วาล์วอัตโนมัติ แสดงถึงมีความผิดปกติที่ควรจะได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน

++เสียงเคาะหนักแน่น++

หากเมื่อใดที่ได้ยินเสียงจากภายในเครื่องยนต์ดังเป็นระยะหนักแน่นคล้ายมีค้อนมาเคาะแสดงว่าเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นกับเครื่องยนต์ของคุณแล้ว เสียงดังกล่าวจะเกิดขึ้นเนื่องจากชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เกิดการสึกหรอเกินเกณฑ์ที่กำหนด โดยทั่วไปการสึกหรอที่ทำให้เกิดเสียงดังกล่าวจะมีสาเหตุมาจากแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง แบริ่งก้านสูบ สลักลูกสูบ หรือลูกสูบ

วิธีแก้ไข หากได้ยินเสียงดังกล่าวควรที่จะดับเครื่องยนต์ทันที หากปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อจะก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้นหลังจากนั้นควรลากรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบและแก้ไข
 

ไฟล์แนบ

  • Image.jpg
    Image.jpg
    16.4 KB · อ่าน: 63
  • Image12.jpg
    Image12.jpg
    8.9 KB · อ่าน: 64
++เสียงท่อไอเสีย++

เสียงท่อไอเสียที่ดังมาก โดยที่เครื่องยนต์ยังทำงานเป็นปกติ และดังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่เปลี่ยนไป ให้ตั้งสมมุติฐานว่าอาจเกิดการรั่วที่ระบบไอเสีย เช่น รั่วที่ปะเก็นท่อร่วมไอเสีย รั่วตามจุดต่อท่อไอเสียหรือรั่วที่หม้อพักไอเสีย

วิธีแก้ไข ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจสอบ และแก้ไขให้ถูกจุดเพราะหากปล่อยทิ้งไว้ นอกจากจะก่อให้เกิดเสียงดังที่น่ารำคาญกับบุคคลอื่น คุณอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับและเปรียบเทียบปรับ

++เสียงดังเมื่อเหยียบเบรก++

ในขณะที่คุณเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วหรือหยุดรถ หากได้ยินเสียงคล้ายโลหะเสียดสีกัน นั่นคือสัญญาณที่บอกให้ทราบว่าผ้าเบรกเกือบดำจนถึงเนื้อเหล็กที่เป็นแผ่นยึดผ้าเบรกแล้ว กรณีที่เป็นดิสก์เบรกถึงจุดที่ควรเปลี่ยนแล้วที่มุมหนึ่งของแผ่นยึดผ้าเบรกจะติดตั้งแผ่นเหล็กเล็ก ๆ ไว้ปลายแผ่นเหล็กจะยึดล้ำเข้าไปในส่วนของผ้าเบรกประมาณ 1 มม. ดังนั้นหากคุณได้ยินเสียงโลหะเสียดสีกันเมื่อเหยียบเบรก แสดงว่าผ้าเบรกรถท่านสึกจนถึงจุดที่ควรเปลี่ยนแล้ว ส่วนในกรณีของดรัมเบรกจะไม่มีการติดตั้งแผ่นสัญญาณเตือนดังกล่าวไว้ แต่เมื่อผ้าเบรกใกล้หมดท่านจะได้ยินเสียงการเสียดสีของโลหะเช่นเดียวกันเพราะผ้าเบรกมากกว่าส่วนอื่น ๆ

วิธีแก้ไข ควรให้ช่างผู้ชำนาญเป็นผู้ตรวจสอบเพราะในการเปลี่ยนผ้าเบรกแต่ละครั้งจะต้องตรวจสอบการรั่วซึมในวงจรเบรกด้วย หากมีการรั่วซึมในวงจรเบรกด้วย หากมีการรั่วซึมตามลูกยาง หรือข้อต่อต่างๆ ก็ควรได้รับการซ่อมแซมหรือเปลี่ยน และควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกจะต้องไล่ลมออกจากระบบให้หมด สำหรับในกรณีที่ขับรถลุยน้ำและจอดรถทิ้งไว้ข้ามวันจะทำให้เกิดสนิมที่แผ่นดิสก์เบรกหรือตัวดรัมเบรก ดังนั้นช่วงแรกที่ขับรถเมื่อเหยียบเบรกอาจได้ยินเสียงดังจากเบรกบ้างซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

++เสียงดังปัง ปัง++

ในระหว่างที่คุณขับรถโดยเฉพาะขณะที่เร่งเครื่องยนต์ หากท่านได้ยินเสียงดัง ปัง ปัง เป็นระยะคล้ายเสียงจุดประทัด หรือเสียงยิงปืนและต้นกำเนิดเสียงดังออกมาจากท่อไอเสียหรือคาร์บูเรเตอร์ เนื่องจากจังหวะการจุดระเบิดไม่ถูกต้องเกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ทำให้ส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ตกค้างภายในหม้อพักไอเสียเกิดการจุดระเบิดตัวเองขึ้นเมื่อได้รับความร้อนกรณีนี้มักจะเกิดขึ้นกับรถเก่าแต่สำหรับรถยนต์ใหม่ที่เป็นระบบหัวฉีดมักจะไม่เกิดปัญหานี้เพราะระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบจุดระเบิดจะถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

วิธีแก้ไข ควรให้ช่างผู้ชำนาญปรับตั้งองศาการจุดระเบิดให้ถูกต้อง

++เสียงจากหัวเพลาขับ++

ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เป็นระบบที่นิยมใช้ในรถยนต์ปัจจุบัน เพลาขับเป็นตัวส่งกำลังจากชุดเฟืองท้ายส่งต่อไปยังดุมล้อหน้า ถ้าได้ยินเสียงดังแกร็ก ๆ ๆ ในขณะเลี้ยวรถแสดงว่าชุดตลับลูกปืนในหัวเพลาขับสึกหรอ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะยางหุ้มเพลาขับสึกหรอ หรือ ฉีกขาดทำให้ไม่สามารถกักเก็บจารบีที่ใช้หล่อลื่นชุดตลับปืนได้ ฝุ่นหรือน้ำจึงสามารถเข้าไปในตลับลูกปืนได้ทำให้ลูกปืนเกิดการสึกหรอเร็วยิ่งขึ้น เสียงดังกล่าวจะได้ยินขณะเวลาเลี้ยวเท่านั้น

วิธีแก้ไข จะต้องเปลี่ยนชุดหัวเพลาขับและยางหุ้มเพลาขับโดยช่างผู้ชำนาญ

นอกจากเสียงต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้วถ้ารถของคุณมีเสียงดังผิดปกติอื่น ๆ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างตรวจสอบหาสาเหตุและแก้ไขให้เป็นปกติเพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัย เรื่องของเสียงยังมีหลากหลายสังเกตพบควรนำรถไปให้ช่างผู้ชำนาญหาสาเหตุและแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนจะเกิดความเสียหายอื่น ๆ ตามมา
*ข้อมูลอ้างอิงจากนิตยสารNISSAN*
 

ไฟล์แนบ

  • Image13.jpg
    Image13.jpg
    26.7 KB · อ่าน: 69
ัๅ๊๑ ็ํเ๊๎์๑๒โเ ๓๊๐เ่ํเ

ล๑๋่ ์เ๑๑เๆํ๛ๅ ๏๐๎๑๒่๒๓๒๊่ ๏๎ไ๒โๅ๐ไ่๋่ ไโๅ ่๋่ ๏๐่, ๏๐๎๑๒่๒๓๒๊่ ๐ๅโไ๛, โเ์ ํๅ๏๎๑๐ๅไ๑๒โๅํํ๎ ๏๎๋๓๗่๒๑
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
ด้านบน