• สวัสดีครับชาวโลมาสีฟ้า cefiro-thailand.com

    เว็บไซต์แห่งนี้เราเปิดให้ใช้งานกับฟรีๆ สามารถโพสต์อัพเดทสถานการณ์ต่างๆข่าวสารบ้านเมืองและข่าวสารของกลุ่ม cefiro-thailand.com ได้เต็มที่เลยนะครับขอแค่ไม่เป็นการปั่นกระทู้หรือโฆษณาอะไรที่มันล่อแหลมจนเกินไป
    เว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดใดทั้งสิ้นมีข้อเสนอแนะอะไรสามารถแนะนำเข้ามาได้ครับยินดีปรับแต่งและแก้ไขถ้าสามารถทำได้

    กฎระเบียบของเราก็ไม่มีอะไรมากท่านสามารถใช้งานได้เต็มที่

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

เอามาฝาก.....

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ A311078
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

A311078

สมาชิกชมรมเซฟิโร่-ไทยแลนด์
Cefiro-Thailand Members
เข้าร่วม
23 ก.ย. 2009
ข้อความ
1,966
คะแนนปฏิกิริยา
1
คะแนน
0
Thread owner
tip ความรู้เรื่องรถยนต์ วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง



เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันอากาศในเมืองไทยมี อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ และความร้อนนี้ยังส่งผลต่อระดับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารของรถยนต์ ดังนั้นเพื่อลดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในห้องโดยสาร เครื่องปรับอากาศภาย ในรถยนต์ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องทำงาน หนัก สำหรับรถใหม่เครื่องปรับอากาศยังใช้งานได้ดี แต่เมื่อใช้ไปเป็นเวลานาน (ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพการใช้งาน) ประสิทธิภาพในการให้ความเย็นจะลดลง ดังนั้นผู้ใช้รถจึงควรรู้จักวิธีใช้ และการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อ ถนอมและรักษาอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ให้ยาวนานที่สุด

air.jpg


วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง

1. ทุกครั้งก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรตรวจดูสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ว่าอยู่ใน ลักษณะใด เปิดหรือปิด ถ้าหากเปิดอยู่ให้กดปิดเสียก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้ คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ท

2. เมื่อเครื่องยนต์ติดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดสวิตช์พัดลมของเครื่องปรับอากาศก่อน โดยปรับไปที่ตำแหน่ง ความเร็วสูงสุด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที เพื่อไล่ลมร้อนจากช่องปรับอากาศ หลังจากนั้นจึงเปิดสวิตช์ ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ปรับสวิตช์ที่ใช้ปรับระดับความเย็นไปที่ตำแหน่งเย็นสุด แล้วจึง ปรับสวิตช์ควบคุมความเร็วของพัดลม และสวิตช์ควบคุมระดับความเย็นลงสู่ตำแหน่งที่สัมพันธ์กับ อุณหภูมิภายในห้องโดยสารตามต้องการ

3. เมื่อเลิกใช้งานก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ ควรปิดสวิตช์คอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ก่อนเพื่อหยุดการทำ งานของคอมเพรสเซอร์ แต่ยังคงเปิดสวิตช์พัดลมแอร์ไว้ในตำแหน่งที่แรงสุดเพื่อให้พัดลมแอร์เป่าลม ผ่านตัวคอยล์เย็น หรือที่รู้จักกันดีว่า “ตู้แอร์” ซึ่งตัวคอยล์เย็นนี้จะมีสภาพที่เปียกชื้น และมีหยดน้ำมา เกาะอยู่ในขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงาน และเพื่อเป็นการไล่ความชื้นออกจากตัวคอยล์เย็นให้เร็วขึ้น วิธี นี้เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดความอับชื้นซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์มีกลิ่น เหม็นอับ รวมทั้งยังช่วยยืดอายุ การใช้งานของตัวคอยล์เย็นให้ผุกร่อนช้าลงกว่าเดิม ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น

สำหรับปัญหาการเกิดกลิ่นอับที่ออกมาจากช่องปรับ อากาศสามารถแก้ไขได้โดย จอดรถในที่โล่งแจ้ง ที่แดดส่อง ได้อย่างทั่วถึง จากนั้นเปิดประตูรถให้หมดทุกบาน จอดรถตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่ากลิ่น อับจะจางหายไป แต่ถ้ากลิ่นอับยังคงรุนแรงเหมือนเดิม ควรนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน
 


ป๊าดด วันนี้มีความรู้มาสองข้อเลยแหะ
 
เยี่ยมเลยครับ
 
ทำมานานแล้วคร๊าบๆๆๆ
ดีดี เอามาบอกเรื่อยๆเผื่อบางอย่างยังไม่ได้ทำนะจ๊ะ
 
ความรู้ดีมากๆ
 


กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม