กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

E85 Ethanol Gasohol ซาตานจริงหรือ รถใช้แก๊สก็อ่านได้

  • เริ่มกระทู้โดย เริ่มกระทู้โดย moderndic
  • วันที่เริ่มกระทู้ วันที่เริ่มกระทู้

moderndic

Registered
มารู้จริงเรื่อง Ethanol E85 หรือ Gasohol กันเถอะ ท่านใดต้องการแชร์ความรู้เชิญนะครับ
ท่านผู้ที่มักจะออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับ Ethaol หรือ E85 ท่านที่เอาแต่พูดเรื่องค่าความร้อน หรือ BTU อยู่ตลอด แม้แต่รายการ Speed Channel ที่ออกอากาศทางUBC และทำตัวเป็น GURU ก็ยังปล่อยไก่เรื่องใช้ค่าความร้อน และฟันธงราวกับ E85 เป็นซาตาน มีแต่ผลเสีย กัดกร่อน และผลเสียอะไรต่อมิอะไรสารพัด ไม่รู้วันหนึ่งพิธีกรทั้งสามคนเมื่อรู้ตัวว่ามั่วจกาการหาข้อมูลไม่ครบถ้วนแล้วจะทำหน้าและรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองพูดหรือฟันธงลงไป จะทำอย่างไรเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะที่เป็นสื่อมวลชน
เรื่อง BTU มีใครใช้ความร้อนไปในการขับเคลื่อนลูกสูบในกระบอกสูบบ้างหละ เค้าใช้ค่า Joule ประเด็นคือเป็น Work ไม่ใช่ Heat ต่างหาก พลังงานมีหลายรูปแบบ ทั้งพลังงานความร้อน พลังงานเสียง พลังงานแสง พลังงานลม อื่นๆอีกมากมาย
มาพูดถึงเรื่องพลังงานความร้อน จากการวิจัย
ถ้าใช้ลองจุดไฟ ไม้ 1+1/4 ปอนด์ - น้ำมันเชื้อเพลิง(Gasoline) 1 ถ้วย - Dynamite 4 ปอนด์
ทั้งสามชนิดนี้ จะให้ความร้อน(Heating Value) เท่ากันที่ 7000 Btu แต่ไม้ใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะเผาไฟให้พลังงาน(Energy) น้ำมันใช้เวลา 2.5 milliseconds แต่ไดนาไมต์ใช้เวลา 4 microseconds แล้วอย่างนี้ผลมันเหมือนกันอย่างไรทั้งๆที่ให้ค่าความร้อนที่เท่ากัน แล้วผลปฎิกริยาของมันเหมือนกันไหมล่ะ ไดนาไมต์ให้ผลระเบิดที่รุนแรงนัก
ไม้ให้ 30 Kilowatts(พันวัตต์) น้ำมันให้ 3.2 Gigawatts(ล้านวัตต์) ไดนาไมต์ให้ 2000 Gigawatts(ล้านวัตต์)
ส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งคืออุณหภูมิสะสมในเครื่องยนต์
เบนซินประมาณ 280-300 องศาC
LPG ประมาณ 450 องศา
NGV ประมาณ 600 องศา
ส่วน E85 ประมาณ 250 องศา
อุณหภูมิที่ลดลงหมายถึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายความร้อนสะสมเพื่อลดภาระของเครื่องยนต์ หรือประสิทธิภาพของน้ำมันหล่อลื่นที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งออกซิเจนที่มีปริมาณมากขึ้นจากโมเลกุลของ Ethanol ช่วยให้การเผาไหม้ที่สะอาดและสมบูรณ์มากขึ้น รวมถึง Gravity ของ Ethanol ที่มีมากกว่าร่วม 10% ( Ethanol 0.794 , Gasoline 0.70-0.78) นั่นหมายถึง Ethanol มีมวลหรือเนื้อมากกว่าในปริมาตรที่เท่ากัน สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบว่าทำไม ถ้ามีการฉีดจ่ายน้ำมันเพิ่มในประมาณที่เหมาะสมจากอุปกรณ์เสริมที่ทำมาโดยเฉพาะจะกินน้ำมันได้มีประสิทธิภาพมากกว่ารถที่เติม E85 โดยไม่มีอุปกรณ์ชุด Kitนี้เพิ่มขึ้นมา และที่สำคัญที่สุดก็คือการออกแบบและดีไซน์ทั้ง Hardware และ Software จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แล้วอย่างนี้ชุด Kit ที่มีขายอยู่เยอะแยะหลายยี่ห้อ จะให้ความสามารถที่เหมือนกันได้อย่างไร???

เดี๋ยวมีโอกาสจะมาต่อประเด็นการกัดกร่อน และ จริงหรือที่ระใช้ LPG ต้องใช้แต่ Benzene 91หรือ95 ห้ามใช้ Gasohol 91หรือ Gasohol95
 


ขอตอบที่เกริ่นไว้นะครับ
รถใช้แก๊สสามารถใช้ Gasohol E10 ได้ครับ

แต่ต้องระวังปัญหา2เรื่่อง
1. ปัญหาอุดตันของ Sludge ที่Ethanolไปล้างมาสะสมที่ไส้กรอง เมื่อใช้Gasohol ครั้งแรก ซึ่งเรื่องนี้ ปตท.เคยเผยแพร่ไว้นานแล้ว
ตามลิงค์ http://www.topboosters.net/wizContent.asp?wizConID=94&txtmMenu_ID=56
2. ปัญหาPhase Seperation หรือที่เรียกกันว่าน้ำมันบูด หรือน้ำมันเน่า(มันมีกลิ่นเหม็น)
มันคืออาการของน้ำหรือความชื้นเกิดขึ้นในถังน้ำมันของคุณ อันเนื่องมาจากน้ำมันเบนซินมีสูตรโมเลกุลทางเคมีเช่น C6H6 เอทานอลจะมี OHเพิ่มขึ้นมาเช่น C2H5OH ประเด็นก็คือเมื่อรถใช้แกส ส่วนมากจะใช้น้ำมันสำหรับสตาร์ทแล้วกลับไปใช้LPG หรือNGV เป็นพลังงานในการขับขี่ น้ำมันเชื้อเพลิงในถังถูกใช้ไปน้อยทำให้เกิดการหมุนเวียนต่ำ และโดยตรรกะ เราไม่สามรถที่จะรักษาน้ำมันในถังให้อยู่ในระดับเต็มเปี่ยมตลอดเวลา เมื่อน้ำมันพร่อง สิ่งที่เข้าไปแทนที่คืออากาศ ไฮโดรเจน(H)หรือออกซิเจน(O) ก็จะไปทำปฎิกริยากับอากาศในถังน้ำมันซึ่งไม่ค่อยมีการหมุนเวียนกลั่นตัวเป็นความชื้นและหยดน้ำสะสมอยู่ในถังน้ำมัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอทานอลซึ่งมีโมเลกุล O และH เป็นของแถมมา(ซึ่งแท้จริงเป็นของดีมาก) ก็จะยิ่งทำให้เกิดความชื้นสะสมเร็วกว่าน้ำมันเบนซินที่ไม่มีเอทานอลผสมอยู่ (ในเบนซินธรรมดาก็เกิดขึ้นด้วยจากH แต่จะเกิดขึ้นช้ากว่าช้ากว่า) น้ำและความชื้นสะสมในถังน้ำมันนี่เองที่จะเกิดการกัดกร่อนหรือที่เราเรียกว่าปฎิกริยา Oxidation (เหมือนเหล็กที่ขึ้นสนิม) ซึ่งแถมยังมีฤิทธิ์เป็นกรดด้วย ไปกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆ ปัญหามิได้เกิดจากเอทานอลหรือE10โดยตรง
Sludge(คราบสิ่งสกปรกจากสารประกอบไฮโดรคาร์บอน และสิ่งสกปรก เหล่านั้นมาจากไหน อาจจะมาจากการกัดกร่อนอันเนื่องมาจากการOxidation ของน้ำที่สะสมอยู่เดิมในถังน้ำมันซึ่งมีฤิทธิ์เป็นกรด ถามต่อว่าน้ำมาจากไหนทั้งๆที่ก่อนหน้าที่ไม่ได้ใช้E10 คำตอบที่พอเป็นไปได้คือจากการเติมน้ำมันที่มีปริมาณความชื้นเข้าไปอาจจะจากปั้มน้ำมัน ผมไม่ได้ระบุว่ามาจากการจงใจผสมน้ำลงในถังน้ำมันของปั้มน้ำมันนะครับ แต่ความเป็นจริงก็คือถังเก็บน้ำมันใต้ดินในปั้มน้ำมันนั้นมีความชื้นหรือน้ำผสมอยู่ด้วยทั้งนั้นถึงแม้ไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเบนซิน ดีเซล หรือแกสโซฮอลล์ อาจจะมาจากน้ำท่วมหัวลงน้ำมันหรือความชื้นสะสมในถังน้ำมันใต้ดินเป็นระยะเวลานานๆ สถานีบริการน้ำมันที่ก่อสร้างเมื่อไม่กี่ปีมานี้จะมีระบบคอมคอยควบคุมปริมาณน้ำมัน(วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการลงน้ำมันเถื่อนและการตัดสต๊อกต่อยอดขาย)รวมถึงคอยเตือนปริมาณน้ำที่สะสมอยู่ในถังน้ำมันใต้ดิน ถ้าหากมีปริมาณมากเกินระบบก็จะส่งสัญญานเตือนให้ทำการสูบน้ำที่ผสมอยู่ข้างล่างออก แต่ถ้าเป็นปั้มรุ่นเก่าที่สร้างมานานแล้วจะไม่มีระบบนี้ซึ่งจะไม่สามารถทราบปริมาณน้ำในถังใต้ดินได้เลยจนกว่าเติมใส่รถลูกค้าแล้วเกิดอาการผิดปกติ นั่นหมายถึงว่ามีปริมาณน้ำมากมายแล้ว ปั้มยิ่งใหม่คนเข้าเติมเยอะการหมุนเวียนน้ำมันมีมาก ปั้มเก่าๆคนเติมน้อยการหมุนเวียนน้ำมันช้าโอกาสเกิดการ Phase Seperationในถังน้ำมันใต้ดินย่อมมีมากกว่า คือมันอาจจะเกิดมาตั้งแต่น้ำมันอยู่ในปั้มแล้วไม่ใช่เพิ่งมาเกิดในถังน้ำมันรถเรา นี่คือเหตุที่ว่าทำไมเวลาเติมน้ำมันควรเลือกสถานีบริการที่ใหม่มากกว่าที่ก่อสร้างมาแล้วนานๆ


Phase Sepearion ไม่เพียงก่อให้เกิดปัญหาในการกัดกร่อนภายในเท่านั้น แต่ทำให้น้ำมันที่อยู่ในถังลดคุณภาพไปด้วย คือสูญเสียอะตอมไฮโดรเจน(H) ซึ่งเป็นพลังงานสำคัญในเชื้อเพลิงไป เพราะมันหนีไปแต่งงานกับออกซิเจนกลายเป็นความชื้นไป ถึงเป็นที่มาของคำว่า"น้ำมันเสีย"ถ้าเราเก็บไว้นานๆไม่ว่าชนิดไหนก็ตาม

วิธีแก้ก็คือ
- ก่อนใช้ให้ล้างทำความสะอาดถังน้ำมัน หากรถใช้งานมาแล้วเป็นระยะเวลานานพอสมควร
-พยายามใช้น้ำมันให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนและช่วยการสะสมให้น้อยลง อีกทั้งยังเป็นการหล่อลื่นระบบด้วย
-เวลาเติมน้ำมันพยายามเลือกปั๊มที่ค่อนข้างใหม่ มีการหมุนเวียนน้ำมันสูง
-ใช้น้ำยาป้องกัน Phase Seperation

LPG เป็นพลังงานทางเลือก หากใช้อย่างเข้าใจ ปัญหาก็จะน้อยลง บางคันใช้ได้ไม่กี่หมื่นกิโลแตบางคันใช้ได้หลายแสนกิโล สี่แสนกิโลก็ยังมี ทั้งนี้อยู่ที่การดูแลรักษาเป็นสิ่งสำคัญ

ขอแถมเรื่องGasohol ระเหยไว

http://thaidriver.com/magazine-preview/oil/oil.html


โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยครับ คงเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
 
สุดยอดเลยครับสำหลับข้อมูลดีๆ....ผมใช้LPGและโซฮอร์95 มา5ปี2แสนกว่าโลแล้วครับเครื่องยนต์ก็ยังดีอยู่เลย อยู่ที่การบำรุงรักษาจริงๆครับ.....
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
ด้านบน