กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

+++ มารู้จัก Cefiro A31 กัน (อีกครั้ง+รำลึก) +++

  • เริ่มกระทู้โดย เริ่มกระทู้โดย A31212
  • วันที่เริ่มกระทู้ วันที่เริ่มกระทู้

A31212

-= ChampZ =-
Cefiro-Thailand Members
ไปเจอมาครับ ผมไม่รู้ว่าควรเอามาไว้ที่นี่ หรือเอาไปไว้ที่ Technical ดีอะครับ ยังไงรบกวน Moderator ตัดสินใจให้ด้วย เห็นว่าข้อมูลมันน่าสนใจ เนื้อหายาวหน่อย แต่อ่านแล้วไม่น่าเบื่อดี เลยอยากแบ่งปันเพื่อนๆพี่ๆ ครับ
===========================

มารู้จัก Cefiro A31 กัน

นำเรื่อง
รถครอบครัวขนาดกลางที่แจ้งเกิดในวงการรถยนต์บ้านเราเมื่อปี90 ที่ฉีกแนวจากรุ่นอื่นๆโดยสิ้นเชิง ถึงจะผ่านไปกว่า 10ปีแล้วแต่มันยังคงความน่ามองอยู่ไม่เสื่อมคลาย ถ้าเทียบกับรถระดับเดียวกันปีเดียวกันในยุคนั้นอย่างแอคคอร์ด ณ วันนี้มันเหนือกว่ามาก และไปเทียบชั้นกับ 520 ได้อย่างสูสีใกล้เคียง หลายๆอย่างถูกบันทึกไว้ในความทรงจำเกี่ยวกับมันเช่น มียอดขายในอันดับต้นๆของเบสเซลเลอร์ทั้งระดับประเทศและระดับโลก ได้รับรางวัลต่างๆมากมาย แถมช่วง 90-96 ก็มียอดรถรุ่นนี้หายหรือถูกโจรกรรมมากเป็นประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

การเปิดตัว
ในบ้านเรานั้นมีให้เลือกเล่นอยู่ 2 รุ่นคือ 12 วาล์ว 121 แรงม้า และ 24 วาล์ว 152 แรงม้า ต่างกันเฉพาะขุมพลังที่ตัว 24วาล์วมีมากกว่า ระบบเบรคที่เป็นดิสสี่ทั้งคู่แต่ตัว 24 วาล์วพ่วงABS มาด้วย และก็ระบบเกียร์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย นอกจากนั้นก็เป็นออฟชั่นเล็กๆน้อยๆตามราคาที่เพิ่มลดและความต้องการของผู้ซื้อ ที่มีขายในบ้านเราเนื่องจากมีความต้องการที่สูงกว่ากำลังการผลิตหลายเท่า รถที่นำมาขายจึงมีวิธีการประกอบที่แตกต่างกันออกไปมีทั้งนำเข้ามาทั้งคัน นำเข้าเป็นชิ้นส่วนมาประกอบในบ้านเรา และประกอบเองในบ้านเราซึ่งปัญหาก็จะมีแอบแฝงแตกต่างกันไปโดยเฉพาะตัวที่ดัดแปลงจาก 12วาล์วเป็น 24วาล์ว แต่ตัวที่ถือว่าทนทานที่สุดคือตัว 12วาล์ว

ขุมพลังและข้อมูลทางเทคนิค(บางส่วน)
Cefiro 12 valves Cefiro 24 valves {สีน้ำเงินคือข้อมูลเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น}
ระหัสเครื่องยนต์ RB 20 E RB 20 DE
แบบเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง SOHC 6 สูบแถวเรียง DOHC
ปริมาณความจุ 1998 ซีซี
ขนาดกระบอกสูบ*ระยะชัก 78 ม.ม. * 69.7 ม.ม.
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ECI ชนิด Multi-Point Injection
อัตราส่วนกำลังอัด 9.5 ต่อ 1 10.2 ต่อ 1
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า) 121 ที่ 5200 รอบ 152 ที่ 6000 รอบ
แรงบิดสูงสุด (กก.-เมตร) 17.6 ที่ 4400 รอบ 18.5 ที่ 5200 รอบ
ระบบขับเคลื่อน ล้อหลัง-เครื่องยนต์หน้า
อัตราทดเฟืองท้าย (ต่อ 1) 4.111 4.083
ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท ปีกนก
ระบบกันสะเทือนหลัง มัลติลิงค์ เพลาลอย
ความยาวตัวของรถ (ม.ม) 4690
ความกว้างของตัวรถ (ม.ม) 1695
ความสูงของตัวรถ (ม.ม) 1375
ความสูงใต้ท้องรถต่ำสุด (ม.ม) 150
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) 65
น้ำหนักรถโดยประมาณ (ก.ก) 1290 1320
ความเร็วสูงสุด (ก.ม/ช.ม +5-5) 175 185
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที) 13.2 12.4
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (ก.ม/ล.) 6.0-12.5 5.0-11.5

จุดเด่น
เป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นในค่ายญี่ปุ่น ที่สามารถทัดเทียมกับค่ายยุโรปในระดับเดียวกันอย่างไม่อายใคร ไม่ว่าจะเป็น 520/ 230Eหรือแม้แต่ 940 โดยทิ้งแอคคอร์ดชนิดไม่เห็นฝุ่น ที่ดูจะเป็นรองก็เฉพาะ 230E กับ940เฉพาะขนาดเท่านั้นเท่านั้น ส่วนอื่นๆจัดว่าสูสีทีเดียวไม่ว่าจะเป็นคุณภาพในการประกอบ ความแข็งแกร่ง ระบบความปลอดภัย การทรงตัวโดยเฉพาะการเทโค้งแรงๆที่ความเร็วจัดเกิน150ทำได้ดีชนิดขับหน้าบางรุ่นชิดซ้ายเลยทีเดียวและยังทำได้ดีกว่า940หรือด้อยกว่า520กับ 230Eก็แค่เล็กน้อย การออกแบบเน้นไปแนวยุโรปคือความทนทานเป็นหลักถ้าดูแลดีๆมันสามารถทะลุ 4-5 แสนกิโลเมตรได้อย่างไม่ยากเย็นเลยแบบแทบจะไม่ต้องยุ่งกับเครื่องยนต์เลย กับระบบช่วงล่างเพลาลอยขับหลังเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอึดและสมบุกสมบันที่สุดแล้ว
การใช้วาล์วไอดี-ไอเสียที่มีขนาดใหญ่ก้านโตจึงหายห่วงเรื่องความทนทาน ประเก็นฝาสูบใช้แบบขอบเหล็กและเพิ่มระยะห่างของร่องระหว่างสูบจึงไม่ค่อยเจอปัญหาเรื่องประเก็นฝาสูบแตก ยิ่งตัวฝาสูบเองก็มีขนาดกว้างพิเศษแทบจะไม่พบเรื่องฝาสูบแตกหรือร้าวเลยอย่างดีก็แค่โก่ง ตัวกระเดื่องกดวาล์วออกแบบให้มีขนาดใหญ่พิเศษเพื่อความทนทานแต่ทำจากอลูมินัมชั้นดีจึงลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีแถมลดเรื่องความดังของเสียงได้มาก เครื่องยนต์ที่เป็นเหล็กหล่อถึงจะน้ำหนักมากแต่การสึกหรอจะน้อยและทนทานดีมาก

จุดด้อย
ที่เห็นชัดก็จะเป็นในเรื่องของขนาด โดยเฉพาะห้องโดยสารที่ออกแบบมาเป็นรถขนาดกลางแบบครอบครัว แต่พกกลิ่นอายของความเป็นสปอร์ตมาด้วย ก็เลยจะอึดอัดพอสมควรสำหรับคนตัวใหญ่ๆเมื่อต้องขับขี่เดินทางไกลยาวๆ รูปทรงที่เตี้ยแถมหน้ายาวทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ในเมืองหรือการกะระยะทำได้ไม่ค่อยดี

ปัญหาที่พบ
1. พวงมาลัยพาวเวอร์รั่ว-น้ำหนักพวงมาลัยไม่เท่ากัน เบาบ้างหนักบ้าง-โช้คอัพรั่ว-ระบบควบคุมโช้คอัพไม่ทำงาน สาเหตุน่าจะมาจากระบบโซนาวิเคราะห์ปรับสภาพนำหนักของพวงมาลัย และความแข็ง-อ่อนของโช้คไฟฟ้า เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวถนนอยู่เสมอ แต่มันไม่เหมาะกับสภาพถนนที่อาจจะเจอหลุม แล้วตามด้วยปลักควายกลางถนนอย่างแถวๆนี้ ทำให้การวิเคราะห์และสั่งการผิดพราดบ่อยๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากระบบรับ-ส่งข้อมูลสมัยนั้นยังเป็นแบบความเร็วต่ำอยู่ทำให้ไม่สามารถวิเคราะห์หรือสั่งการได้ตามสภาพถนนจริง ไม่ใช่ว่าระบบมันไม่ดีแต่เป็นเพราะมันเหมาะที่จะวิ่งตามไฮเวย์ที่มีผิวถนนไม่มีอุปสรรคแบบถี่ยิบอย่างถนนในบ้านเรา
2. เกลียวหัวเทียนรูด-ปีนเกลียว อันนี้ท่านที่ครอบครองมันอยู่จะทราบดีว่าการถอดหรือใส่หัวเทียนของรุ่นนี้ทำได้ค่อนข้างลำบากเพราะมันอยู่ฝั่งของไอดี ถ้าไม่ระมัดระวังก็จะทำให้เกลียวเสียได้ง่ายๆแม้แต่รถที่เข้าศูนย์บริการประจำก็ยังเกิดปัญหานี้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเครื่องเดินไม่เรียบ กำลังตกและบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้น การแก้ไขนั้นค่อนข้างจะยุ่งยากเพราะอาจจะต้องตีปลอกหรือทำเกลียวใหม่เสริมเข้าไป
3. เกียร์ออโต้เกิดปัญหาเมื่อใช้งานราว 15-20 หมื่นกิโลเมตร ทั้งการตอบสนองที่ไม่ดี จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ไม่เป็นไปตามคำสั่งหรือบางทีก็ไม่ยอมเปลี่ยนเกียร์ให้ สาเหตุเนื่องจากระบบควบคุมและรับ-ส่งข้อมูลคำสั่งในยุคนั้นอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงจาก 8บิต มาเป็น 16บิตและพึ่งจะเริ่มต้นยุค 16บิตทำให้ความสมบูรณ์ยังมีไม่มากพอที่จะรองรับการขับขี่แบบสปอร์ตหรือแบบเร้าใจได้ เมื่อใช้งานบ่อยๆจึงทำให้ระบบประมวลผลเกิดการรวน
4. เครื่องยนต์มีเสียงวาล์วดัง เครื่องเดินไม่เรียบ แรงตก และแก้ไม่หาย สาเหตุเนื่องจากในตระกูลRB ใช้ระบบตั้งวาล์วอัตโนมัติแบบไฮโดรลิคลิฟเตอร์ ถึงแม้ที่ใส่ไว้จะมีความทนทานมากและบอกไม่ได้ว่าต้องถอดทำความสะอาดตอนไหน(ส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณช่วง 15-20หมื่นโล) แต่ต้องทำหรือถอดทำความสะอาดมันทันทีที่ได้ยินเสียงวาล์วดังซึ่งผู้ใช้ส่วนมากจะไม่ทราบเรื่องนี้สุดท้ายก็จะกลายเป็นอาการถาวรของเครื่องที่แก้ไม่หาย โดยเฉพาะการออกรถทันทีขณะเครื่องเย็นโดยไม่มีการอุ่นเครื่องก่อนอันนี้ไม่เกิน 10หมื่นโลรู้เรื่อง แต่ถ้าดูแลดีก็อย่างที่บอกบางคัน 4แสนโลแล้วเครื่องยังเดินเรียบ-เงียบและนิ่มอยู่เลย

จุดอ่อนที่พบ
1. วาล์วน้ำที่ติดอยู่กับตัวเสื้อทำมาจากเหล็กปั๊มขึ้นรูปจะมีอายุสั้นมากเกินไป ทั้งเสียเร็วทำให้เกิดการรั่วซึมของน้ำและผุง่ายทำให้น้ำหายออกจากระบบหรือมีอากาศเข้าไปในระบบเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการไข้ขึ้นและฝาสูบโก่ง
2. หัวนกกระจอกของชุดจานจ่ายเสียบ่อยทำให้เครื่องสตาร์ทติดยากโดยไม่ทราบสาเหตุ และฝาครอบจานจ่ายที่ทำมาจากฉนวนที่ไม่ทนทานต่อความร้อนจะพบว่าแตกร้าวบ่อยๆซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งของเครื่องเดินไม่เรียบที่เป็นเส้นผมบังภูเขาโดยแท้จริง
3. ลูกรอกตัวตั้งสายพานไทมิ่งที่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กเกินไป(เพื่อรองรับกับสายพานที่ไม่ยาวมากแต่มีหน้ากว้างมากและขนาดใหญ่พิเศษ)การเสียดสีจึงมีมากเพราะรอบจะค่อนข้างจัดมากทำให้ลูกรอกเสียเร็วและถ้าติดๆขัดๆก็จะส่งผลต่ออายุงานของสายพานไทมิ่งที่จะหดหายไปราวครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว และอาจจะพ่วงเรื่องความเสียหายเนื่องวาล์วคดมาด้วย
4. ตาน้ำข้างเสื้อสูบที่มักจะผุออกมาจาดด้านในทำให้ยากต่อการสังเกต ต้องใช้การดูแลเอาใจใส่เรื่องระดับน้ำหล่อเย็นของผู้ครอบครองเป็นพิเศษ มิฉนั้นแล้วก็อาจจะเกิดปัญหาโอเวอร์ฮีต-ฝาสูบโก่งตามมา
****ความจริงก็ยังมีปัญหาที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุโดยเฉพาะตัว 24วาล์วช่วง 92-94 แต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการจึงขออนุญาตไม่กล่าวถึงนะครับ*****

อ้างอิงจาก
http://www.car2care.com/Forum/viewtopic.aspx?t=859
โดยคุณ 666 ครับ
 


ดีมาก ครับ น่าสนใจจริงๆด้วย ขอบคุณครับที่นำมาลงให้อ่านกัน :smile: :smile:
 
ไว้ว่างๆจะมาอ่าน
ของดีมีประโยชน์
ดีมากๆครับพี่น้องแชมป์ค้าบบบบ
 
:redface: ยาวดีครับแต่อ่านแล้วไม่น่าเบื่อความรู้ล้วนๆ :redface: :redface:
 
ผมว่าสวยสุดแล้วอ่ะ เมื่อ 10 กว่าปีก่อนนะ ผมว่า cefiro เนี่ยสวยสุดแล้ว ปัจจุบันก็ยังสวยอยู่
รักนะ Cefiro อิอิ
 
เทียบกับรถตอนนี้ก็สวยอยู่

เอ 31 เนี่ย เป็นรุ่นที่ผมใช้นานที่สุดเลย
 
เทียบกับรถตอนนี้ก็สวยอยู่

เอ 31 เนี่ย เป็นรุ่นที่ผมใช้นานที่สุดเลย
:biggrin: ได้อะยังอ่ะนานแระนา:biggrin: :biggrin:
 
แล้วคุณจะหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนผม...............
 
ความรู้ทั้งนั้นเลยคร้าบบบบบ cefiro นี่ประวัติมันยาวนานดีจิงๆ
 
ครับ เห็นด้วย กับ comment ของพี่น้องทุกคน เพราะถ้าไม่มีวิศวกร ที่ ออก แบบ และ บริษัท นิสัน ที่ ผลิต รถรุ่นนี้ขึ้นมา พวกผมคงไม่ได้มารู้จัก บ้านหลังนี้...อบอุ่นเสมอ ครับ

ด้วยความเคารพอย่างสูง
A31600
 
ต้องขอบคุณนิสสันที่ผลิตรถดีๆออกมาให้ใช้ครับ.............
ตอนนี้ทั้งตระกูลใช้ นิสสัน หมดแระ.............
 
อยากเป็นเจ้าของบ้างจัง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากเอารถเดิมๆมาแต่งหรือ แบบแต่งมาแล้วดีกว่า ถ้าแต่งมาแล้วรถจะช้ำมั๊ยครับ นำมาใช้งานประจำวันด้วยคับ มีงบประมาณ 230000-250000 บ. ปี 93-94 ยังจะมีมั๊ยคับแบบตัวถังยังไม่ผุ รบกวนขอความคิดเห็นพวกพี่ๆหน่อยคับ อยากได้จริงๆคับ
 
เทียบกับรถตอนนี้ก็สวยอยู่

เอ 31 เนี่ย เป็นรุ่นที่ผมใช้นานที่สุดเลย

จริงหรอจ๊ะ...ตอนนี้มาอยู่กับผมแล้วไม่ต้องห่วงน่ะ:biggrin:
 
ครับ เห็นด้วย กับ comment ของพี่น้องทุกคน เพราะถ้าไม่มีวิศวกร ที่ ออก แบบ และ บริษัท นิสัน ที่ ผลิต รถรุ่นนี้ขึ้นมา พวกผมคงไม่ได้มารู้จัก บ้านหลังนี้...อบอุ่นเสมอ ครับ

ด้วยความเคารพอย่างสูง
A31600

พูดซะ น้ำตาไหลเลย บอม
 
ผมละชอบไอ้ท่อนนี้จัง อ่านแล้วชื่นใจ

"
เป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นในค่ายญี่ปุ่น ที่สามารถทัดเทียมกับค่ายยุโรปในระดับเดียวกันอย่างไ ม่อายใคร ไม่ว่าจะเป็น 520/ 230Eหรือแม้แต่ 940 โดยทิ้งแอคคอร์ดชนิดไม่เห็นฝุ่น ที่ดูจะเป็นรองก็เฉพาะ 230E กับ940เฉพาะขนาดเท่านั้นเท่านั้น ส่วนอื่นๆจัดว่าสูสีทีเดียวไม่ว่าจะเป็นคุณภาพในการป ระกอบ ความแข็งแกร่ง ระบบความปลอดภัย การทรงตัวโดยเฉพาะการเทโค้งแรงๆที่ความเร็วจัดเกิน15 0ทำได้ดีชนิดขับหน้าบางรุ่นชิดซ้ายเลยทีเดียวและยังท ำได้ดีกว่า940หรือด้อยกว่า520กับ 230Eก็แค่เล็กน้อย"
 

Similar threads


กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
ด้านบน