กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

ขอความช่วยเหลือรถสตาร์ทติดยาก

  • เริ่มกระทู้โดย เริ่มกระทู้โดย anuphol
  • วันที่เริ่มกระทู้ วันที่เริ่มกระทู้

anuphol

Registered
รถที่ใช้ A31 rb25 ติดแก๊ซ lpg ไม่ได้สตาร์รถมา 1 อาทิตย์ พอสตาร์มันมีเสียงประมาณ
สตาร์ติดยากแต่ติด ขับจากลำลูกกา-อยุธยา ดับเครื่องไว้ประมาณ 5 นาทีมาสตาร์ทใหม่ไม่ติดต้องพ่วงแบตเตอรี่รถสตาร์ทติด ขับจากอยุธยา-สระบุรี ดับเครื่องประมาณ 20 นาที กับมาสตาร์ทอีกครั้งไม่ติดต้องพ่วงแบตฯ เอารถมาให้ช่างดู ช่างคนที่ 1 ลองสตาร์ทรถแต่ปิดแอร์ช่างบอกไดชาร์ททำงานดี แต่พอเปิดแอร์แล้วสตาร์ทไดชาร์ทไม่ทำงาน ช่างคนที่ 2 บอกว่าเป็นที่คอยท์แอร์ แล้วช่างแนะนำว่าให้ขับรถกลับบ้านโดยไม่เปิดแอร์แล้วดูว่าสตาร์ทติดไหม ทิ้งรถไว้ 1 อาทิตย์กลับมาสตาร์ทใหม่ปรากฎรถสตาร์ทติดปกติ อยากทราบว่าอาการแบบนี้สาเหตุน่าจะมาจากอะไรค่ะ ขอโทษนะค่ะถ้าตั้งคำถามแล้วไม่เคลียร์พยายามๆเข้าใจหน่อยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้ารอคำตอบอยู่นะค่ะ
 


รอนิ๊สสสนึงนะครับ เดี่ยวก้มีพี่น้องใจดีมาตอบปัญหาให้
 
ผมเคยเจอแต่จอดท้งไว้ ข้ามคืน แล้วสตาร์ทติดยาก เช็คแล้วแรคกูเรเตอร์เสีย คือว่าแรคกูเรเตอร์มันรักษาแรงดันไม่ได้ (น้ำมันไม่ไหลกลับถัง) ทำให้น้ำมันท่วมค้างอยู่ในรางหัวฉีด
ทำให้สตาร์ทติดยาก ลองดูนะครับ เช็คระบบน้ำมันดูก่อน ว่าทำงานปกติมั้ย หายไวไวนะครับ

เรกูเรเตอร์ ก็คือตัวปรับแรงดัน ครับ เรกูเรเตอร์ของน้ำมัน ก็คือ ตัวปรับแรงดันของน้ำมัน ซึ่งทำหน้าที่ปรับแรงดันในท่อร่วมน้ำมันรวมที่จะส่งน ้ำมันเข้าระบบหัวฉีด รวมถึงท่อน้ำมันที่ส่งมาจากปั๊มติ๊ก (ถ้าไม่มี One-Way Valve ที่ตรงข้อต่อของท่อส่งน้ำมันกับท่อร่วมน้ำมัน) ประโยชน์ของการปรับแรงดัน ก็เพื่อให้ การส่งจ่ายน้ำมันเข้าหัวฉีด จะมีแรงดันสม่ำเสมอ ไม่สูงเกินไปจนหัวฉีดพัง และไม่ต่ำเกินไปจนไม่พอจ่ายน้ำมันเข้าหัวฉีดทุกหัว เวลาที่ต้องการอัตราเร่งสูงสุด ครับ โดยที่ปั๊มติ๊กจะเป็นตัวส่งน้ำมันมาให้ตลอดเวลา (ตัวปั๊มติ๊กเองจะมีวาล์วกันแรงดันย้อนกลับอยู่ด้วย) จึงทำให้เกิดแรงดันในท่อน้ำมัน อัดเข้าไปตลอดเวลา เรกูเรเตอร์จึงรับหน้าที่ต่อ โดยการรับแรงดันเข้ามาจนถึงจุดที่โรงงานกำหนด (ถ้าเป็นเรกูเรเตอร์ที่ผู้ใช้ติดตั้งเข้ามาใหม่ ผู้ใช้รถก็จะเป็นผู้กำหนดแรงดัน) ถ้าแรงดันเกินจุดที่กำหนด (เวลาเครื่องเดินเบา หรือ วิ่งในความเร็วต่ำ) ตัวปรับแรงดัน ก็จะระบายน้ำมันที่แรงดันเกินกำหนดออกไปทางท่อน้ำมัน ไหลกลับเข้าถังน้ำมันครับ

เรกูเรเตอร์น้ำมัน จะมีอยู่ในรถทุกคันครับ (รถที่ใช้แก๊ส ก็ต้องมี เรกูเรเตอร์แก๊สครับ) ดังนั้น เมื่อถามว่า ถ้าเรกูเรเตอร์ เสีย จะเป็นอย่างไร จึงต้องตอบออกมาเป็น 2 ประเด็น เพราะว่า จะมีเสียอยู่ 3 แบบครับ คือ
  1. ชำรุดเพราะไม่เปิด วาล์วให้น้ำมันไหลกลับ ผลก็คือ แรงดันจะสูงเกินไปมากขึ้นๆจนถึงระดับสูงสุดที่ปั๊มน้ ำมันจะมีแรงส่งน้ำมันได้ตลอดเวลา ผลก็คือ ท่อน้ำมันแตก หัวฉีดพัง ปั๊มติ๊กพัง ครับ
  2. ชำรุดเพราะวาล์วน้ำมันไหลกลับเปิดค้างตลอดเวลา ผลก็คือว่า เวลาเราต้องการอัตราเร่งสูงสุด หรือต้องการอัตราเร่งในระดับที่ต้องการนั้น จะไม่สามารถทำได้ เพราะว่าแรงดันน้ำมันไม่พอครับ
  3. ชำรุดเพราะการควบคุมแรงดันน้ำมันไม่ตรงตามที่กำหนด (วาล์วเปิดปิดน้ำมันไหลกลับ ทำงานผิดปกติ เช่น อ่อนเกินไป หรือ แข็งเกินไป หรือ ระบบรวนมีทั้งอ่อนบ้างแข็งบ้าง) ผลที่เกิดจะทำให้มีอาการตามข้อ 1 และข้อ 2 หรือ ทั้ง 2 ข้อรวมกันตามช่วงเวลาที่เกิดอาการครับ
อ้างอิง http://clubjz.net/showthread.php?p=249312
 
แก้ไขล่าสุดเมื่อ:
มือใหม่ อนุโลมเอาไว้หน้านี้ก่อนละกัน
ปล.ผู้หญิงซะด้วย ฮี่ๆ
 
เช็คไดชาร์จว่ายังทำงานปกติหรือไม่ --> ให้ร้านไดนาโมเช็คให้ได้ก้อครับ
เช็คแบตเตอรี่ว่ายังเก็บไฟได้ดีหรือไม่ --> ให้ร้านไดนาโมเช็คให้ได้ก้อครับ
เช็คว่าไฟรั่วหรือไม่ --> ให้ร้านไดนาโมเช็คให้ได้ก้อครับ
เช็คการจุดระเบิด โดยดูที่หัวเทียน หรือคอยล์
เช็คว่าน้ำมันมา หรือแก๊สมาปกติมั๊ย

ครบตามนี้แล้ว น่าจะใช้งานได้ตามปกติแล้วนะครับ ยกเว้นแต่ว่ากล่องพัง
 
เปลี่ยนหน้าคลัชท์คอมเพรสเซอร์แอร์ ก็หายแล้วตามที่ช่างเขาแจ้งไว้น่ะครับ
 
ฟันธง ไดชาตร์ หรือไม่ก็แบตรรั่ว 2อย่างครับผม
แวะมาเช็คที่พระประแดงได้นะครับเดียวจัดการให้555
 
น่าจะเป็นเรื่อง คอยแอร์กินกระแสไฟ แนะนำให้ไปเช็คว่าชุดคอยหน้าคัชแอร์ ค่าที่กำหนด2.7V-3.8V วัดกระแสของคอยน่าคัช ถ้าค่าเกินต้องเปลี่ยนคอยหน้าคัชแอร์ ค่าเกินตั้งแต่ 3.9ขึ้นไป แต่ถ้าไปร้านแอร์เขาคงไม่วัดให้เปลี่ยนอย่างเดี่ยว ลองดูครับ
 
แก้ไขล่าสุดเมื่อ:

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
ด้านบน