กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

คิดว่า เซฟิโร่ A-31 ของพวกเราคนไทยจะทำได้มั๊ย

  • เริ่มกระทู้โดย เริ่มกระทู้โดย A31009
  • วันที่เริ่มกระทู้ วันที่เริ่มกระทู้

A31009

สาวกรากหญ้า
Moderator
:redface: คิดมานานแล้วตั้งหลายปี อยากจะเนรมิตให้มันเกิดขึ้น
และขอให้พวกเราได้มีโอกาส จารึกลงใน กินเนสบุ๊ค 2009

เลยมาถามความสมัครใจ ว่าศักยภาพ ของพวกเราสามารถ
ที่จะทำลายสถิติ ในรถรุ่นเดียวกันสามารถมารวมตัวกันได้มากที่สุด
ในประเทศไทย....

มันเป็นไปได้มั๊ย... มันสามารถเกิดขึ้นได้จริงเหรอ.. แน่ใจรึเปล่า
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ เย้ยหยัน แล้วพวกเราคิดว่าอย่างไรกัน

:frown:
ทุกคนพร้อมรึเปล่า...จะออกมา ลุย ด้วยกันไม๊
จะจับมือ ร่วมกันทำลายสถิติโลก ด้วยกันไม๊
ใครสนใจ
ลงชื่อเลยโว๊ยยย...
ไม่ได้จำกัดแค่สมาชิก ยินดีต้อนรับบุคคลภายนอก
ที่ใช้รถ เซฟิโร่ A-31 และจะมาร่วม ทุบสถิติโลกด้วยกัน
ทู๊กกก คน

ลงชื่อเลย...

:sweet_kiss: :sweet_kiss: :sweet_kiss:

 


:eeek: MINI. เค้าก้าวไปก่อนหน้าเราแล้ว....

มินิ ประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์แห่งความภาคภูมิที่เป็นที่สุดกับงาน MINI PHENOMENON 2007 ด้วยการรวมพลังรถมินิจำนวนกว่า 444 คัน ที่พร้อมใจกันมาร่วมกันแปรอักษร เป็นคำว่า “LONG LIVE THE KING” เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยการสร้างสถิติโลกครั้งใหม่ บันทึกโดย Guinness Book of World Records (กินเนสบุ๊ค เวิร์ด ออฟ เรคคอร์ด) ภายใต้ประเภทการต่อขบวนรถยนต์มินิที่มากที่สุดในปรากฏการณ์ ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เมื่อวันเสาร์ที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา
นายปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “การรวมพลังของชาวมินิสเตอร์ในครั้งนี้ ถือเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ดังนั้น มินิ ไทยแลนด์ จึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ ที่เราจะได้เห็นกลุ่มคนไทยกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง มาร่วมกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม เพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช อันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของพวกเราทุกคน”
นายปรีชา นินาทเกียรติกุล กล่าวต่อว่า “การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของชาวมินิในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความเป็นหนึ่งเดียวกัน ในการแปรอักษรเป็นคำว่า LONG LIVE THE KING เพื่อถวายพระพรด้วยพลังอันหนักแน่นของพลพรรคคนรักมินิที่จะประจักษ์สู่สายตาคนทั้งโลก ด้วยการทำลายสถิติโลกครั้งใหม่ในงาน MINI PHENOMENON ซึ่งภายในงานได้แบ่งออกเป็น 5 โซนด้วยกัน โดยเริ่มจาก Charity Zone (แชริตี้ โซน) ที่รับบริจาคกระดาษเพื่อการเรียนการสอนของผู้พิการทางสายตา ส่วนโซนถัดมาจะเป็น Entertainment Zone (เอ็นเตอร์เทน เม้นท์ โซน) ที่เอาใจคนวัยมันด้วยความบันเทิงอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น มินิคอนเสิร์ต มินิมูวี่ มินิ เกมส์ โซน หรือผ่อนคลายไปกับ มินิสปา อันแสนสบาย ตามด้วย DIY Zone (ดี ไอ วาย โซน) สไตล์มินิที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น อาทิ หมวก เสื้อ เข็มกลัด ที่ทุกคนสามารถทำของใช้ส่วนตัวขึ้นเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร รับรองว่างานนี้ไม่มีคำว่าธรรมดาเป็นแน่ แม้แต่ Dining Zone (ไดนิ่ง โซน) ที่อิ่มอร่อยไปกับเมนูและเครื่องดื่มสุดพิเศษ”
โดยไฮไลท์ของงานนั้นจะเป็นช่วงค่ำคืน เมื่อรถมินิทุกคันที่มาแปรอักษรพร้อมแสง สี เสียง ที่จะสร้างภาพแห่งความประทับใจ LONG LIVE THE KING ก็จะปรากฏขึ้นผ่านทางจอภาพขนาดยักษ์ที่ถ่ายทอดสดจากมุมมองด้านบน (Bird-eye-view) โดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อประจักษ์สู่สายตาทุกคู่เพื่อให้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของภาพแห่งความประทับใจครั้งประวัติศาสตร์ ที่โลกต้องจารึก!


Guinness Book

กินเนสส์ เวิร์ลด์ เรคคอร์ด เป็นหนังสือรายปี ที่มียอดจำหน่ายครบ 100 ล้านเล่มในปี 2546 เป็นหนังสือที่มีค่าลิขสิทธิ์สูงที่สุดในโลกเพราะมีการแปลออกเป็นภาษาต่างๆ ถึง 23 ภาษาและมีขายทั่วไปถึง 100 ประเทศทั่วโลก หนังสือเล่มนี้มีกำเนิดมาจากความหงุดหงิดของ เซอร์ฮิวจ์ บีเวอร์ ผู้จัดการใหญ่ ของโรงเบียร์ กินเนสส์ ในงานเลี้ยงสังสรรค์ของชมรมยิงปืนแห่ง หนึ่งในเมืองเวกซ์ฟอร์ด ประเทศไอร์แลนด์ เมื่อปี 2494 โดยสมาชิกชมรมได้เถียงกันว่า นกอะไรที่ทางการอนุญาตให้ล่าได้ในยุโรป แล้วบินเร็วที่สุด ท่านเซอร์ ฮิวจ์ บอกว่า เป็นนกโกลเด้น พลัฟเวอร์ แต่ก็ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ และคิดว่า ข้อถกเถียงแบบนี้จะต้องมีอีกต่อไปแน่ในสังคมของมนุษย์ ดังนั้นจึงน่าจะมีหนังสือสักเล่ม ที่สามารถให้คำตอบหรือตัดสินในเรื่องแบบนี้ได้
บังเอิญขณะนั้น คริส แชตตาเวย์ นักกีฬาที่ทำลายสถิติโอลิมปิกมาแล้ว ทำงานอยู่ในโรงงานผลิตเบียร์กินเนสส์ของท่านเซอร์ที่ Park Royal Brewery ในลอนดอน ท่านจึงเรียกเขามาปรึกษา คริสเลยแนะนำให้รู้จักกับพี่น้องฝาแฝด นอร์ริสและรอสส์ แมคเวอร์เตอร์ ซึ่งเป็นเพื่อนนักกีฬาด้วยกัน เพราะแฝดคู่นี้กำลังค้นหาหลักฐานสถิติต่างๆ ของกีฬา เพื่อนำมาจัดพิมพ์อยู่พอดี และเป็นช่วงที่โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ยอดนักวิ่งระยะกลางชาวอังกฤษ สามารถวิ่งระยะ 1 ไมล์ได้ภายในเวลาไม่ถึง 4 นาที เป็นคนแรกของโลกคือ 3 นาที 59.4 วินาที เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2497
เซอร์ ฮิวจ์ ชอบแนวความคิดของคู่แฝดมากจึงได้ชักชวนให้มาร่วมงานกันผลิตเป็นหนังสือแนวใหม่ออกมาสู่บรรณพิภพนั่นคือ “The Guinness Book of Records” ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2498 และได้รับการยกย่องจากคนอ่านแทบจะในทันทีว่า เป็นแหล่งข้อมูลสถิติต่างๆที่กว้างขวางที่สุดและเชื่อถือได้ที่สุด
น่าเสียดายที่นอร์ริส แฝดคนพี่ได้เสียชีวิตไปก่อนในเดือนเมษายนปี 2547 จึงไม่ทันได้เห็นความสำเร็จครบ 50 ปี ของหนังสือที่พวกเขาช่วยกันทำขึ้นมา นอร์ริส เป็นคนที่ลุ่มหลงในการค้นคว้าหาความจริงและความถูกต้องของทุกเรื่อง เขาเดินทางไปพบผู้คนต่างๆมากมาย ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา และยินดีที่จะได้บันทึกเกร็ดประวัติชีวิตที่น่าสนใจของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นผู้ครองสถิติต่างๆในกีฬาโอลิมปิก หรือคนที่พยายามสร้างสถิติใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่มีใครเคยทำหรือไม่กล้าทำ เช่น มาร์ค กอตต์ลิป นักไวโอลินใต้น้ำ หรือ แฟรงค์ ฟรีร์ที่ปอกเปลือกแอปเปิ้ลได้ เป็นชิ้นยาวที่สุดโดยไม่ขาดออกจากกัน ความแปลก ความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ในสายตาของนอร์ริส ถือว่าเป็นความยอดเยี่ยมทั้งสิ้น
ปัจจุบัน กินเนสส์ เวิร์ลด์ เรคคอร์ดพิมพ์ออกจำหน่ายทั่วโลกปีละประมาณ 3.5 ล้านชุด แสดงให้รู้ว่า ความกระหายที่อยากทำลายสถิติต่างๆ การสร้างสถิติรูปแบบใหม่ๆขึ้นมา ยังมีอยู่ตลอดเวลาในสังคมมนุษย์และมีคนอยากรู้กันเป็นอันมาก “กินเนสส์ เวิร์ล เรคคอร์ด” จึงเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกและไม่มีหนังสือเล่มไหนจะมาเทียบได้ในเรื่องความกว้างไกลของเนื้อหาสาระและความน่าเชื่อถือ แม้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเบียร์ กินเนสส์มานานแล้ว แต่เขายังคงรักษาชื่อเดิมเอาไว้ เพราะกลายเป็นสถาบันไปแล้ว ในเล่มหลังสุดครบรอบ 50 ปี ยังเพิ่มเรื่องราวที่น่าสนใจเข้ามาอีก เช่น เบื้องหลังสถิติที่โด่งดังที่สุดของโลกและเรื่องราวของเจ้าของสถิติสำคัญๆ จากการสัมภาษณ์พิเศษ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่อยากให้ชื่อของตนปรากฏอยู่ในกินเนสส์ บุค กับเขาบ้าง โดยเฉพาะคนไทยที่อะไรๆ ก็อ้างว่าใหญ่ที่สุด ยาวที่สุดในโลกนั้น จะว่ายากก็ยาก แต่จะว่าง่ายก็ง่าย ผู้จัดทำเขาบอกว่า ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องรูปงาม มีชื่อเสียงอย่างดาราภาพยนตร์ หรือเป็นนักกีฬาระดับโลกเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ แต่ถ้าคุณมีความตั้งใจอย่างแรงกล้า และอุทิศตัวเองให้กับสิ่งที่กำลังทำอยู่อย่างเต็มที่ ความสำเร็จก็อาจเป็นของคุณได้
ใน “Guinness World Records 2005” ยังมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากได้รับการบันทึกชื่อลงในหนังสือด้วยว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างดังนี้

1. ตัดสินใจเสียก่อนว่าอยากทำลายสถิติอะไร
มีสถิติเพื่อให้เลือกทำลายเป็นพันๆชนิด จะรวบรวมสมัครพรรคพวกทำกิจกรรมอะไรสักอย่างร่วมกัน เพื่อทำลายสถิติการทำงานที่ใช้คนร่วมกิจกรรมจำนวนมากที่สุดก็ได้ หรือคุณอาจเป็นนักสะสมของแปลกๆที่ยักไม่มีใครทำ หรืออาจเสนอทำอะไรใหม่ๆขึ้นมาก็ได้ ถ้าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ท้าทายความสามารถของมนุษย์หรือกิจกรรมที่ต้องการความบำนาญเป็นพิเศษท้าทายให้คนอื่นเข้ามาประชัน ฯลฯ ก็อาจได้รับพิจารณาให้ทำ

2. ยื่นใบสมัครและแสดงความจำนง
เมื่อตัดสินใจเลือกแล้วคุณต้องติต่อกับสำนักงานกินเนสส์ บุค ก่อน ก่อนที่จะพยายามทำสถิติอะไร เพื่อจะได้ทราบกติกาเพราะสถิติทุกอย่างในกินเนสส์ เวิร์ด เรคคอร์ด มีกฏระเบียบที่ต้องยึดปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ผู้ที่ต้องการสร้างสถิติอะไรขึ้นมาใหม่ จึงต้องเขียนใบสมัครและแสดงความจำนง พร้อมมอบข้อมูลหลักฐานต่างๆ ให้พิจารณาล่วงหน้า ถ้าเขาชอบความคิดของคุณ ก็จะตั้งกติกาให้ปฏิบัติเพื่อทำลายสถิติ และเพื่อให้เป็นมาตรฐานสำหรับคนอื่น ที่อยากทำลายสถิติของคุณในอนาคต วิธีติดต่อที่ง่าย สะดวกและรวดเร็วมากที่สุด

3. คอยคำตอบรับ
ใบสมัครและข้อมูลทุกอย่างของคุณจะถูกส่งไปยังฝ่ายวิจัยข้อมูลของบริษัทเพื่อพิจารณา ถ้าผ่าน คุณจะได้รับคำตอบทางอีเมล พร้อมกับระเบียบ กติกาต่างๆ ที่คุณจะต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องมาให้พิจารณาก่อนล่วงหน้า บางทีอาจขอหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสถิติข้อมูลเดิมของคุณมาด้วย ถ้าไม่ผ่าน เขาก็จะตอบมาเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร พร้อมทั้งอาจให้คำแนะนำวิธีการสร้างสถิติใหม่แก่คุณก็ได้

4. การทำสถิติ
ในวันกำหนดทำสถิติ เขาจะแนะนำวิธีปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฏ กติกาแก่คุณอีกครั้งหนึ่ง ทีนี้ ตราบใดที่ไม่มีการละเมิดกฏกคุณจะทำแบบไหนเพื่อสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาก็ได้ทั้งนั้น เขาจะส่งกรรมการผู้ตัดสินมาร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งคุณต้องเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด สำคัญที่สุดมีข้อตกลงอยู่ด้วยว่าการทำสถิติขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเองคุณต้องรับผิดชอบเองแต่ผู้เดียว หากเกิดการผิดพลาดใดๆขึ้นมา ทางกินเนสส์เวิร์ลด์เรคคอร์ด จะไม่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

5. การยอมรับความสามารถ
เมื่อการทำสถิติหรือการแสดงความสามารถได้สิ้นสุดลง คุณจะต้องส่งหลักฐานทั้งหมดไปให้กินเนสส์ เวิร์ลด์ เรคคอร์ด (เช่นภาพถ่าย วิดีโอ คำรับรองของประจักษ์พยานและหลักฐานพิเศษอื่นๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณทำสถิติด้านไหน (พร้อมระบุหมายเลขสมาชิก หมายเลขบัตรประจำตัวที่เขามอบให้คุณตั้งแต่แรก บนหลักฐานทุกชิ้นอย่างชัดเจน)

อนึ่งต้องรู้ไว้อีกอย่างว่า ทุกปีจะมีผู้ผ่านการพิสูจน์ความสามารถในการสร้างสถิติใหม่ๆ ขึ้นมามากมายกว่า 60,000 ราย ดังนั้น การกลั่นกรอง จึงต้องใช้เวลาพอสมควร คุณจึงต้องรู้จักอดใจรอ

6. การรับรองสถิติหรือความสามารถ
ผู้เป็นเจ้าของสถิติทุกประเภทใน “กินเนสส์ เวิร์ด เรคคอร์ด” จะได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ แต่เขาก็ไม่รับประกันว่า ผู้ได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติทุกคนจะได้ปรากฏชื่อในหนังสือเล่มต่อไป เนื่องจากมีจำนวนมากเหลือเกินและการเปลี่ยนแปลงสถิติก็มีอยู่เสมอ แต่ตราบใดที่คุณยังเป็นเจ้าของสถิติโลกอยู่ ช์อของคุณก็จะปรากฏอยู่ในกินเนสส์ เวิร์ลด์ เรคคอร์ด เล่มหน้าอย่างแน่นอน
 
ยินดีร่วมด้วยคับเจ๊โจ้....
ลงชื่อ..A31367 อ๊อดค๊าบบบ....:brick: :byebye:
 
ถ้าได้สถานที่วันเวลาที่แน่นอนพร้อมลางานไปครับ555
แล้วเดี๋ยวจะทำไบปลิวแจกพวกแถวบ้านที่ไม่ได้เข้าเว็บด้วย อิอิ
รถอาม่า อาซ้อ ทั้งหลายแจกให้หมดคริคริ
 
ร่วมด้วยช่วนกัน รวมพลัง a31 :coolly-0022:

ตอนนี้ 2 แน่ :coolly-0035:

A31930
A31942

แล้วจะไปหามาสมทบอีกครับ
มาแสดงพลังความเป็นA31ด้วยกับครับพี่น้องครับ..:coolly-0020: :coolly-0020:
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
ด้านบน