สิ่งที่ผมพอจะบอกได้น่าจะประมาณนี้นะครับ
สิ่งที่แระน่าจะทำแล้วมันจะเป็นผลดีต่อตัวเองในระยะยาวนะครับ
1. อย่างแรกที่แระต้องมีมากที่สุดเท่าที่จะเรียนรู้งานได้นะครับ ประสบการณ์ ยิ่งมากยิ่งดี
2.เมื่อประสบการณ์พร้อมเงินเดือนคุณจะมาตามประสบการณ์เลยครับ ถึงเวลาที่เราเป็นฝ่ายต่อรองแล้วครับ นั้นหมายถึงการผ่านงานมาอย่างไม่ต้องสงสัย รู้ครอบคลุม แทยจะเรียกว่ามีปัญหาตรงไหนในโรงงานทำได้หมดแก้ได้หมด -- ไม่เกี่ยวกับงานบริหารนะเพราะเป็นหน้าที่ของเจาของนะครับ อาจจะเสนอได้แต่จะสนองหรือไม่นั้นไม่เกี่ยวกับเราเท่าไหร่
3.เมื่อถึงขั้นนั้นแล้ว แระจะได้โอกาสในการเลือกสังคม หรือ เพื่อน ที่อยู่ในโรงงาน ถ้าเราขึ้นไปถึงระดับกลาง-บน เพื่อนและสังคมที่เราเจอก็จะแตกต่างจากตอนที่เราอยู่ระดับล่าง ระดับล่างไม่ใช่ว่าไม่คบ นั้นจะยิ่งดีเพราะเขาจะเกรงใจเรา ระดับบนเขาก็ไม่ถือตัว ผมไม่ได้บอกว่าเราจะดูถูกคนที่อยู่ระดับล่างกว่า แล้วไปเลียพวกระดับบน ถ้าคุณยังอยู่แค่ระดับล่างจะมีใครสักกี่คนในระดับบนเขาจะฟังคุณ สังคมคุณจะอยู่แค่ตรงนั้น ซึ่งมันจะไม่เป็นผลดีต่ออนาคตคุณเลยครับ
สเต๊ปเทพนี้ผมได้จากพี่เขยคนนึงซึ่งเป็นนักบริหารมืออาชีพมิใช่เจ้าของกิจการ ลองพิจารณาถึงหลักเหตุผลก็เป็นสเต๊ปที่ใช่เลยครับ ประสบการณ์ เงินเดือน สังคม
คนเก่งผมว่ามีเยอะนะ แต่คนดีๆ มีไม่เยอะหรอกครับ คนเก่งฝึกกันได้ แต่คนดีมันอยู่ในนิสัย
คนเก่งมองแป๊ปเดียวก็รู้แล้วว่าเก่ง แต่คนดีมองกันนานครับ
ความตั้งใจจริงในการทำงาน ความขยัน และ อดทน สิ่งเหล่านี้แค่บอกคงไม่มีใครเชื่อ นอกจากทำให้เห็น อาจจะมากกว่า1.5ปีที่แระทำงานก้อได้ถึงจะเห็น เมื่อถึงระดับที่เรียกได้ว่า ถ้าขาดเราแล้วโรงงานจะลำบากหรือ ทำอะไรก็ติดขัดเมื่อนั้นเขาจะนึกถึงเราเป็นคนแรกครับ ถึงเวลาต่อรองของเราแล้วละครับเวลานั้น( ออกไปแล้วหรือกำลังจะออกแล้วเขารู้สึกว่าเราสำคัญต่อเขาไงครับ)